ประวัติความเป็นมา

บริษัทก่อตั้งขึ้นโดยนายเอกพันธ์ วนโกสุม ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจต่างๆ มาอย่างยาวนานนายเอกพันธ์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในด้านธุรกิจวิศวกรรม

ที่เล็งเห็นโอกาสในการเจริญเติบโตของธุรกิจการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการเกษตรประกอบกับมีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทคูโบต้า จึงได้ทำการจัดตั้งบริษัท ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการเกษตรโดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญ ทางด้านวิศวกรรมเครื่องกลที่มี จึงเริ่มทำการผลิตใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน โดยมีการควบคุมให้ได้มาตรฐานตามที่ได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ บริษัทยังทำการผลิตใบเกลียวลำเลียงซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องจักรที่มีการขนส่งทางท่อที่ใช้กันในหลายธุรกิจ เช่น ท่อลำเลียงเมล็ดพืช ผลทางการเกษตรในไซโล รถเกี่ยวข้าว หรือแม้แต่ท่อลำเลียงคอนกรีตในเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น

ต่อมาในเดือนมีนาคม 2558 บริษัทได้ทำการลงทุนในบริษัท อัดเลอร์เทค จำกัด (“อัดเลอร์เทค”) ร้อยละ 99.80 โดยเป็นการซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมนำโดยนางสาวติยาภรณ์ วนโกสุม เพื่อเป็นการจัดโครงสร้างบริษัท ลดความซับซ้อนในการทำรายการระหว่างกัน และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยการเพิ่มความหลากหลายของตราสินค้าให้ผลิตภัณฑ์หลัก (Fighting Brand) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้แก่บริษัท ทั้งนี้ อัดเลอร์เทค ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการเกษตรภายใต้ตรา “Pegasus”

"พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องดำเนินกิจการ
ด้วยธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและ
สิ่งแวดล้อม อย่างสม่ำเสมอ"

20,000,000 บาท

ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น

ผลิตและพัฒนาเครื่องสกัดกัญชา-กัญชงออกมาสู่ตลาด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ในปี 2564 บริษัทได้รุกธุรกิจใหม่ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมเครื่องกล เพื่อผลิตและพัฒนาเครื่องสกัดกัญชา-กัญชงออกมาสู่ตลาด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี บริษัทจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจการสกัด โดยได้ลงทุนในบริษัทย่อย 3 บริษัทด้วยกันประกอบไปด้วย 1. ลงทุนใน บริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค จำกัด ร้อยละ 99.70 ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการเช่าเครื่องสกัดกัญชา-กัญชง 2. ลงทุนในบริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด ร้อยละ 51 ประกอบธุรกิจในกิจการสกัดสาร การแปรรูปวัตถุดิบที่ได้จากพืชผลทางการเกษตรและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องสำอาง ยา อาหาร อาหารเสริม อาหารสัตว์ 3. ลงทุน ในบริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด ร้อยละ 51 เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพรไทย รวมถึงการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าจากพืชสมุนไพรไทย

จะเห็นได้ว่าจากกลยุทธ์การลงทุนในบริษัทย่อยในปีที่ผ่านมานี้ ทำให้กลุ่มบริษัทนั้นครอบคลุมการดำเนินธุรกิจ ทั้งกลางน้ำและปลายน้ำของธุรกิจการสกัด ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะพืชกัญชา-กัญชง แต่ยังครอบคลุมไปถึงพืชสมุนไพรอื่นๆ เช่น กระท่อม เป็นต้น

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

  1. 2567

    เดือนสิงหาคม 2567 เพิ่มทุนในบริษัทย่อย บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด จากเดิม 15,000,000 บาท เป็น 30,000,000 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน

    เดือนพฤศจิกายน 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติเลิกกิจการในบริษัทย่อย บริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค จำกัด

  2. 2565

    เดือนพฤศจิกายน 2565 เพิ่มทุนในบริษัทย่อย บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด จากเดิม 10,000,000 บาท เป็น 15,000,000 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน

  3. ปี 2564

    เดือนเมษายน 2564 ลงทุนในบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ บริษัท เคดับบลิวเอ็ม แคนนาบิเทค ร้อยละ 99.70 และ บริษัท แล็บแอคทีฟ จำกัด ร้อยละ 51

    5 กรกฎาคม 2564 บริษัทออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (KWM-W1) จำนวน 139,998,338 หน่วยราคาใช้สิทธิ 1.50 บาท กำหนดการใช้สิทธิ 4 ครั้ง, วันที่ 4 มกราคม 2565, 4 กรกฎาคม 2565,4 มกราคม 2566 และ 4 กรกฎาคม 2566 โดยได้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ จำนวนไม่เกิน 140,000,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท (ห้าสิบสตางค์)

    เดือนสิงหาคม 2564 ลงทุนในบริษัท เคดับบลิวเอชบี จำกัด ร้อยละ 51

  4. ปี 2562

    ในช่วงไตรมาส 3 บริษัทเริ่มต้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ ใบมีดตีดิน (Rotary)

  5. ปี 2561

    วันที่ 22 มกราคม 2561 บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001:2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ (Quality Management System)

    วันที่ 16 มีนาคม 2561 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้แปรสภาพบริษัทเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อจากบริษัทเป็น บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) และได้จดทะเบียนแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 นอกจากนี้ในการประชุมผู้ถือหุ้น คราวเดียวกัน ผู้ถือหุ้น ได้มีมติอนุมัติ การเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 150,000,000 บาท เป็น 210,000,000 บาท พร้อมกับเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นจากเดิมหุ้นละ 100.00 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท โดยออกหุ้นสามัญ เพิ่มทุนจำนวน 120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก และนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

    วันที่ 1 ตุลาคม 2561 บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

  6. ปี 2560

    วันที่ 3 เมษายน 2560 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 150,000,000 บาท โดยเป็นการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.00 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเพื่อปรับโครงสร้างทุนของบริษัทสำหรับ การเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

  7. ปี 2559

    วันที่ 21 ตุลาคม 2559 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) โดยเป็นการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบยี น 500,000 หุ้น มูลค่า ที่ตราไว้หุ้นละ100.00 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อปรับโครงสร้างทุนของบริษัทสำหรับการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

  8. ปี 2558

    วันที่ 22 มกราคม 2558 บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001:2008 ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ (Quality Management System)

    ในเดือนมีนาคม 2558 บริษัทได้ทำการลงทุนในบริษัท อัดเลอร์เทค จำกัด (“อัดเลอร์เทค”) ร้อยละ 99.80 โดยเป็นการซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมนำโดยนางสาวติยาภรณ์ วนโกสุมเพื่อเป็นการจัดโครงสร้างบริษัท ลดความซับซ้อนในการทำรายการระหว่างกัน

    วันที่ 17 สิงหาคม 2558 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน) เป็น 50,000,000 บาท (ห้าสิบล้านบาทถ้วน) โดยเป็นการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจดทะเบียน 300,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100.00 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อทำการลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด เลขที่ 300/138 หมู่ที่ 1 ตำบล ตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง (“โรงงาน 2”)

  9. ปี 2557

    ลงทุนเครื่องจักรในระบบการผลิตใบผาลจากเหล็กชนิดใหม่

  10. ปี 2554

    ลงทุนไลน์เชื่อมและประกอบโครงผาล

  11. ปี 2553

    บริษัทลงทุนพัฒนาและผลิตเครื่องรีดใบเกลียวแบบไร้รอยต่อ และไลน์ผลิตใบดันดิน

  12. ปี 2552

    วันที่ 22 พฤษภาคม 2552 ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน)

    วันที่ 14 สิงหาคม 2552 บริษัทได้รับบัตรส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร (Farm Machinery)

    ในเดือนตุลาคม 2552 บริษัทลงทุนเครื่องจักรสำหรับไลน์การผลิตใบผาล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของบริษัท